ความน่ารักของสุนัขบางแก้ว
@ อนุวัฒน์จัดให้ "สุนัขบางแก้ว"
การผสมพันธุ์
- ถ้าคุณเป็นเจ้าของสุนัขตัวเมียและต้องการผสม ประการแรกต้องพิจารณาก่อนว่าสามารถรับผิดชอบดูแลมันและลูกเล็ก ๆ ของมันได้หรือไม่ พิจารณาเรื่องระยะเวลา และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นับตั้งแต่การนำมันไปผสม การดูแลระหว่างตั้งท้องและระยะที่มันต้องเลี้ยงลูกอ่อน คุณต้องมีภาระในการให้อาหาร ดูแลขน ทำความสะอาด ตัดขน ตัดเล็บ และหัดขับถ่ายให้ลูกสุนัขที่จะออกมา และดูแลทั้งหมดทุกอย่าง นอกจากนี้ ยังต้องพาไปหาสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจร่างกาย ถ่ายพยาธิ และฉีดวัคซีน สามัญสำนึกของคุณคงจะบอกกับตัวเองว่าจะเกิดสภาพการที่โหดร้ายเพียงใด เมื่อเกิดมีลูกสุนัขตัวเล็ก ๆ อีกหลายตัวที่เรายังไม่ต้องการและไม่ได้วางแผนไว้ก่อนนั้น เข้ามาอยู่อย่างแออัดยัดเยียด แต่ว่าคงมีเพียงเจ้าของประเภทที่ปล่อยปละละเลยเท่านั้นที่จะเจอสภาพแบบนี้
- ก่อนจะเลือกพ่อพันธุ์เพื่อผสมกับสุนัขตัวเมียของคุณ ต้องคิดก่อนว่าอยากได้ลูกสุนัขเพื่อประสงค์อะไรบ้าง คุณอาจจะเปลี่ยนใจไม่ผสมพันธุ์เลย เพราะไม่อยากได้ลูกสุนัข หรือว่าอยากจะสอนลูก ๆ ของคุณให้มีประสบการณ์ในการเลี้ยงสุนัข หรือคุณอาจจะเข้าใจผิดว่าการผสมลูกสุนัขขายจะได้กำไร เลยคิดจะผลิตลูกสุนัขออกมา การตัดสินใจพวกนี้ต้องคิดให้ดี สุนัขสามารถมีชีวิตอย่างสมบูรณ์ มีสุขภาพดี มีชีวิตตามปกติ โดยไม่เคยคิดผสมพันธุ์เลยก็ได้ อันที่จริงการทำหมันสุนัขตัวเมียและตอนตัวผู้ จะช่วยให้มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่สมบูรณ์แบบกว่า เพราะว่ามันจะได้ไม่กระวนกระวายหาคู่ผสมพันธุ์เพื่อลดความตึงเครียดจากความรู้สึกทางเพศ แต่ถ้าคุณสนใจการผสมพันธุ์สุนัขแบบผิวเผิน วิธีที่ดีที่สุดคือ ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นธุระของคนที่มีประสบการณ์มากกว่าคุณ คือพวกที่ทำการผสมพันธุ์เป็นอาชีพ
- ฤดูเป็นสัดของสุนัขตัวเมีย
- สุนัขตัวเมียจะมีฤดูที่มันต้องการผสมพันธุ์ ซึ่งเรียกว่า "ฤดูเป็นสัด" ซึ่งจะเกิดขึ้นครั้งเดียวหรือหลายครั้งต่อปีก็ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์สุนัขและตัวของสุนัขเอง ฤดูติดสัดครั้งแรกของสุนัขตัวเมีย คือเวลาที่มันพร้อมที่จะรับการผสมจากสุนัขตัวผู้ ซึ่งบางพันธุ์ก็สามารถผสมได้ตั้งแต่อายุครบ 6 เดือน หรือหากคุณมีสุนัขตัวเมียแต่ไม่อยากผสม หรือไม่อยากให้มันผสมพันธุ์เอง ก็ต้องปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อทำหมัน แต่ต้องทำก่อนมันมีอายุครบการติดสัด
- สัญญาณที่บ่งบอกว่าสุนัขตัวเมียจะได้เวลาฤดูติดสัดครั้งแรกของมัน คือ จะมีระดูสีแดงเล็กน้อยและจะเพิ่มมากขึ้นหลักจากนั้น 2-3 วัน หรือสัปดาห์หนึ่ง หลักจากนั้นระดูจะมีสีจางคล้ายสีเหลืองส้ม เป็นอยู่อีก 1 สัปดาห์ ในขณะเดียวกันที่อวัยวะเพศจะบวม ที่เป็นอวัยวะผสมพันธุ์ด้านนอกจะอ่อนนุ่ม แสดงว่าพร้อมจะผสม ประมาณสัปดาห์ที่ 2 หลังจากที่ปรากฏการเปลี่ยนแปลงที่อวัยวะเพศแล้ว จะเป็นระยะเวลาสุกงอมที่ต้องการจะผสมพันธุ์ ระยะนี้เรียกว่าเป็นระยะกึ่งกลางของวัฏจักรการติดสัด จงจำไว้ว่าสุนัขตัวเมียจะมีความแตกต่างกันในเรื่องนี้อย่างมาก และคามถี่ของฤดูติดสัดว่ามีบ่อยแค่ไหนจะไม่เท่ากันในแต่ละตัว ตลอดจนระยะเวลายาวนานของระดู และระยะเวลาเหลื่อมล้ำกันระหว่างวงจรสัด
- ปกติแล้วหลังจากสัปดาห์ที่ 3 ของฤดูติดสัด การพองตัวของอวัยวะเพศจะลดลง และระยะเวลาของความรู้สึกอยากจะผสมจะยุติลง และพักไปหลายเดือน สุนัขตัวเมียจะมีขนน้ำนมร่วงออกจนหมดหรือบางส่วน ซึ่งจะเกิดขนน้ำนมร่วงหลังจากที่ถึงฤดูติดสัด 3 เดือน เป็นเวลาที่ลูกสุนัขหย่านม ปกติสุนัขตัวเมียขนจะร่วงในระยะนี้
- อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม 2 -3 อย่าง กับสุนัขตัวเมีย ในช่วงฤดูสัด สุนัขตัวเมียอาจจะออกไปทางประตูที่เปิดทิ้งไว้ เพื่อไปเจอสุนัขตัวผู้ทุกตัวที่แสดงความสนใจมัน และมันอาจจะยกหางขึ้น บางครั้งโอกาสในช่วงนั้นก็ทำเหมือนกับจะผสมพันธุ์ โดยเฉพาะถ้าเอามือลูบด้านหลังของมันให้นั่งลง แต่สัญญาณแบบนี้ไม่ค่อยปรากฎชัดเท่ากับลักษณะการแสดงออกถึงความรู้สึกทางเพศของสุนัขตัวผู้ และสุนัขตัวผู้เองก็ไม่มีประสบการณ์ทางด้านวงจรสัด (HEAT CYCLE) มาก่อน แต่สุนัขตัวผุ้จะสนใจและดึงดูดใจสุนัขตัวเมียในระหว่างเวลาฤดูสัดของตัวเมียทุก ๆ ระยะ สุนัขตัวผู้จะมีลักษณะก้าวร้าว และมีท่าทางอยากจะต่อสู้หรือกัดกับสุนัขตัวผู้อื่น ๆ โดยเฉพาะที่มันกำลังติดพันตัวเมีย มันจะทำเครื่องหมายปักปันเขตแดน โดยใช้ปัสสาวะตามที่ต่าง ๆ เพื่อล่อตัวเมีย และในขณะเดียวกันเพื่อเตือนสุนัขตัวผู้ตัวอื่น ๆ ไม่ให้มายุ่ง
- ถ้าบ้านของเรามีรั้วรอบขอบชิด ควรขังสุนัขตัวเมียไว้ในรั้วบ้าน และอาจจะไม่ฉลาดนักที่จะขังตัวเมียในฤดูติดสัดไว้ในกรงที่ตาข่ายห่าง เพราะตัวผู้สามารถผสมกับตัวเมียได้ขณะยืนนอกกรง อย่าปล่อยสุนัขตัวเมียออกไปนอกบ้านในฤดูติดสัด โดยไม่ตามไปควบคุมแม้แต่เพียงนาทีเดียว มันอาจจะไปถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะไว้นอกบ้าน หากคุณต้องการป้องกันไม่ให้สุนัขตัวเมียที่มีฤดูติดสัดอยู่ในบ้านแล้ว ควรพาสุนัขตัวเมียไปอยู่ที่อื่นก่อนที่สุนัขตัวเมียจะทำสัญญาณบอกสุนัขตัวผู้จะโดยกลิ่นปัสสาวะของตัวเมีเร่งเร้าให้อยู่แต่ตรงที่นั้น สุนัขตัวผู้รู้โดยสัญชาติญาณว่าสุนัขตัวเมียอยู่ไม่ห่างจากตรงนั้นแน่ ถ้าคุณต้องพาสุนัขตัวเมียออกไปเดิน ควรควบคุมมันให้ดี หลังจากช่วงเวลานั้นแค่ 3 สัปดาห์ให้ออกไปข้างนอกได้ โดยไม่ต้องวิตกว่ามันจะตั้งท้องจนกว่าจะถึงฤดุติดสัดครั้งต่อไป
- เมื่อใดจึงจะผสมพันธุ์ได้
- ปกติแล้วช่วงที่เหมาะสมที่สุดที่จะผสมพันธุ์สุนัขตัวเมีย คือตอนสุนัขตัวเมียมีฤดูติดสัดครั้งที่ 2 หรือที่ 3 วางแผนล่วงหน้าก่อนว่าช่วงใดจึงจะเหมาะกับเวลาของคุณมากที่สุด คือคุณต้องใช้เวลาทำคลอดสุนัข ดูแลลูกสุนัข และทำหน้าที่ต่าง ๆ หลังจากนั้น อย่างน้อยก็ต้องเสียเวลาในการให้อาหาร ทำความสะอาด เล่นกับลูกสุนัข (อย่าเพิ่งขายลูกสุนัขที่เกิดใหม่ อย่างน้อยต้องมีอายุครบ 6 สัปดาห์ก่อน) คุณต้องดูและมันตลอดในระหว่างที่อยู่กับแม่และจนกว่ามันจะหย่านม คุณจะต้องฝึกให้มันถ่ายอุจจาระปัสสาวะเป็นที่พร้อมที่จะไปอยู่บ้านใหม่ และเตรียมให้คำแนะนำแก่ผู้ที่จะมาซื้อลูกสุนัขจากคุณ
- การเลือกพ่อพันธุ์
- คุณสามารถวางแผนผสมสุนัขตัวเมียประมาณ 1 ? เดือน หลังจากฤดูติดสัดครั้งสุดท้ายของมัน หาสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่เป็นพันธุ์เดียวกับของคุณ และเลือกพ่อพันธุ์ จัดการนัดหมายล่วงหน้า หากจะผสมเพื่อเอาไปโชว์ จะต้องเสียเงินค่าผสมมากกว่าต้องการคุณภาพแค่เลี้ยงไว้ ควรเลือกคู่ให้เหมาะสมกัน พ่อพันธุ์อาจมีคุณสมบัติที่จะลบข้อบกพร่อง (นิสัยที่ไม่ดี) ที่สุนัขตัวเมียของคุณมีอยู่ได้ พ่อพันธุ์อาจจะมีประวัติการโชว์ที่ดี หรือเคยเป็นพ่อพันธุ์ของสุนัขที่ได้รางวัลชนะเลิศมาแล้ว ถ้าเป็นไปได้ทั้งสุนัขตัวผู้และตัวเมียที่จะผสมกัน ควรมีบรรพบุรุษที่คล้าย ๆ กันมาแล้ว 2-3 ชั่วรุ่น ซึ่งเรียกว่าเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมกันที่สุด
- เจ้าของสุนัขตัวผู้ จะเรียกค่าตอบแทนที่ให้บริการผสมพันธุ์แก่สุนัขตัวเมีย ซึ่งค่าบริการนี้ไม่ใช่เงินประกันเกี่ยวกับลูกสุนัข ถ้าผสมแล้วสุนัขตัวเมียไม่ท้องคุณอาจจะขอให้ผสมกับสุนัขตัวเดิมใหม่อีกครั้ง และบางทีเจ้าของสุนัขตัวผู้จะตกลงว่า ตนจะขอเลือกสุนัขตัวใดตัวหนึ่งเป็นคนแรกก่อน เพื่อแลกกับค่าผสม คุณจะต้องวางข้อตกลงกันล่วงหน้าให้เข้าใจก่อน รวมทั้งข้อตกลงบางอย่าง เช่น ถ้าเผื่อได้ลูกสุนัขที่รอดชีวิตเพียงตัวเดียวจะทำอย่างไร ต้องกำหนดอายุลูกสุนัขว่าจะให้เอาไปได้เมื่อใดด้วย ฯลฯ
- ถ้าคุณวางแผนเลี้ยงลูกสุนัขไว้เองทั้งหมด เพื่อจะเอาไว้ขายต่อไปหรือจะเลือกเก็บลูกสุนัขตัวผู้เอาไว้สักตัว ข้อเลือกที่สำคัญข้อหนึ่งคือ เรื่องอารมณ์ของสุนัข จงแน่ใจว่าสุนัขอารมณ์ดี เป็นเพื่อนที่ดี สุขภาพดีด้วย เพราะสิ่งไม่ดีอาจถ่ายทอดมาสู่ลูกสุนัข และนี่คือนิสัยที่เลวที่สุดยิ่งกว่านิสัยเสียอื่น ๆ ถ้าคุณจะผสมสุนัขชนิดคุณภาพดีแล้ว ก็จำเป็นต้องมีเงื่อนไขของการ "ให้ลูกสุนัขเป็นค่าผสมของสุนัขตัวผู้ "เพราะปกติจะไม่ให้ลูกสุนัขเป็นค่าผสม แต่จะจ่ายเป็นเงินให้
- การเตรียมการผสมพันธุ์
- ก่อนอื่นต้องตรวจสอบสุขภาพสุนัขตัวเมียของเราก่อน สุนัขต้องไม่ผอมหรืออ้วนไป ต้องรักษาโรคผิวหนังทุกชนิดก่อนจะติดต่อถึงลูก ถ้าเป็นพยาธิต้องขับถ่ายพยาธิก่อน หรืออย่างน้อยภายใน 3 สัปดาห์หลังจากผสม ปกติแล้วจะต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรค DISTEMPER และ CANINE HEPATITIS ซ้ำอีกครั้งก่อนลูกสุนัขเกิด ซึ่งจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคให้แก่ลูกสุนัขในช่วงแรก ๆ
- สุนัขตัวเมียพร้อมจะรับการผสมใน 12 วัน หลังจากมีระดูในครั้งแรก คุณอาจจะพาไปหาเจ้าของสุนัขตัวผู้และทิ้งไว้ที่นั้น 2-3 วันหรืออาจจะพาไปผสมแล้วพากลับในวันเดียวกันหลังผสมแล้วก็ได้ ถ้ายังปรากฏว่าสุนัขตัวเมียยังไม่ผสมได้อีก ก็อาจไปผสมซ้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจใน 2 วันหลังจากผสมครั้งแรก อย่างไรก็ดี มีสุนัขบางตัวไม่อยากจะผสม จึงควรมีนักผสมพันธุ์ที่ชำนาญคอยช่วยแนะนำเรื่องนี้ อันที่จริงเจ้าของสุนัขทั้งคู่อาจช่วยได้ โดยช่วยจับสุนัขทั้ง 2 ตัว และคอยระวังไม่ให้หลุดออก ควรเตรียมปลอกสวมปากสุนัขเอาไปสวมตัวเมียไม่ให้กัดเจ้าของหรือกัดสุนัขตัวผู้
- คุณอาจจะคาดเวลาหลังการผสมได้ 9 สัปดาห์ หรือ 60-63 วัน ระยะเวลาการตั้งท้องของสุนัขแต่ละตัวต่างกันไปตามพันธุ์
- การดูและสุนัขท้อง
- ในช่วงนี้จะต้องให้การดูแลแม่สุนัขและให้ออกกำลังกายด้วย ถ้าสุนัขอ้วนก็ควรลดอาหาร เพราะสุนัขบางตัวถ้าอ้วนจะมีปัญหาตอนคลอดลูก ถ้าสุนัขผอมอาจจะให้อาหารเสริม เช่น นม หรือขนมปังกรอบตอนกลางวันบ้าง จะทำให้น้ำหนักขึ้นได้ เจ้าของสุนัขบางคนอยากให้อาหารพวกแร่ธาตุและวิตามินเสริมควรปรึกษาสัตวแพทย์ถึงลูกในท้องด้วย ในขณะเดียวกันแม่สุนัขจะอยากกินอาหารมากขึ้น จึงควรให้อาหารเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของการตั้งท้อง ลูกสุนัขจะเจริญเติบโตและตัวใหญ่ขึ้น แม่สุนัขมีกระเพาะแคบลงใส่อาหารได้น้อย จึงมีความอยากอาหารน้อยลง ควรล่อให้กินอาหารโดยใช้ตับ เนื้อสัตว์ และนม
- ในขณะที่ท้องใหญ่ขึ้นไม่ควรให้ออกกำลังกายหักโหม และไม่ควรให้สุนัขกระโจน ควรตัดการออกกำลังกายออก และอย่าให้เล่นกับเด็ก ๆ ตามที่เคยทำ สัญญาณบอกว่าจะมีการคลอดในระยะใกล้ ๆ นี้ก็คือ ขนรอบ ๆ เต้านมจะร่วงออก เป็นวิธีธรรมชาติที่จะเป็นหนทางให้ลูกสุนัขที่จะออกมาหาอาหารได้ง่าย ยิ่งใกล้วันคลอดเต้านมจะบวมเป่งขึ้นเพราะน้ำนมภายใน หัวนมจะใหญ่ขึ้นและมีสีชมพูเข้ม ถ้าหากขนรอบ ๆ นมไม่ร่วงออกไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรก็ตาม อาจใช้กรรไกรช่วยตัดออกให้สั้นหรือหวีไม่ให้ติดกัน ลูกสุนัขจะได้ดูดนมได้สะดวก