• DSC_0874_resize.JPG
  • DSC_0875_resize.JPG
  • DSC_0882_resize.JPG
  • DSC_0885_resize.JPG
  • DSC_0886_resize.JPG
  • DSC_0895_resize.JPG
  • DSC_0901_resize.JPG
  • DSC_0904_resize.JPG
  • DSC_0905_resize.JPG
  • DSC_0909_resize.JPG
  • DSC_0910_resize.JPG

อาหารของสุนัขบางแก้ว

 

             อาหารที่ดีเป็นมูลฐานสำคัญสำหรับการเพาะเลี้ยงที่ดี สุนัขก็เช่นเดียวกันกับมนุษย์ต้องการอาหารนับตั้งแต่ผสมติดในท้อง เกิดมาสู่โลก จนถึงตายไป เพื่อการมีชีวิตอย่างมีสุขภาพสมบูรณ์ สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงนั้น หากแยกออกตามคุณค่าทางโภชนาการ ก็สามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภท คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ (แร่ธาตุ) และน้ำ

หลักการให้อาหาร

             ในการให้อาหารสำหรับเลี้ยงสุนัข มีหลักสังเกตและข้อปฏิบัติที่ควรทราบไว้ดังนี้

             1. สุนัขมีขนาดกระเพาะเล็ก ดังนั้น จึงต้องให้เนื้อหรืออาหารสำเร็จและเมื่อเทียบตามส่วน แล้วอาหารที่จะย่อยนั้น ควรมีขนาดเล็กเช่นเดียวกัน

           2. ถาเป็นสุนัขให้นมลูก อาหารที่กินเข้าไปส่วนใหญ่จะจ่ายออกไปเลี้ยงลูกสุนัขโดยทางน้ำนม ลูกสุนัขในระยะแรกจึงควรเลี้ยงด้วยนมแม่จะดีกว่าการใช้นมวัวเลี้ยง ซึ่งให้ธาตุอาหารน้อยกว่า ในระยะต่อมาก็ควรให้อาหารประเภทเนื้อ หรืออาหารสำเร็จให้มาก จึงจะถือว่าเป็นวิธีบำรุงเลี้ยงที่ถูกต้อง

             3. ในกระเพาะสุนัขมีกรดไฮโดรคลอริคในปริมาณที่สูง ดังนั้นจึงช่วยทำให้การย่อย อาหารประเภทกระดูกและก้อนเนื้อใหญ่ๆ เป็นไปโดยง่ายขึ้น

            4. ฟันสุนัขปรับตัวของมันสำหรับกัดและตัดเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับการบดเคี้ยวเช่นสัตว์ ประเภทกินเมล็ดพืช จริงอยู่แม้ว่าจะคุ้นเคยกับการกินอาหารได้เกือบทุกชนิดก็ตาม แต่โครงกระดูกและ ร่างกายของมันก็ยังคงเป็นสัตว์กินเนื้ออยู่นั่นเอง ด้วยหลักนี้จึงถือว่าเนื้อเป็นอาหารธรรมชาติ และเหมาะสำหรับใช้เลี้ยงสุนัขด้วยประการทั้งปวง

             5. สุนัขมีน้ำลายสำหรับทำลายสิ่งบูดราได้ในปริมาณที่น้อย และการย่อยแป้งต้องใช้กรด ไฮโดรคลอริคในปริมาณที่สูง ด้วยเหตุนี้ กระเพาะสุนัขจึงไม่ปรับตัวสำหรับการย่อยแป้ง (แต่แป้งจะถูกส่งไปย่อยในลำไส้เล็ก)หากระลึกถึงความจริงต่างๆ จากข้อ 1-5 นี้ รวมทั้งประเภทของอาหารสุนัขดังได้กล่าวมาแล้ว จะได้หลักในการใช้อาหารสำหรับเลี้ยงสุนัขว่าจะต้องเป็นประเภทเสริมสร้างร่างกาย สร้างพลังงาน ให้ความร้อน รวมทั้งให้วิตามิน และเกลือแร่ที่สำคัญ ดังนั้น ส่วนประกอบของอาหารสุนัขจึงมีดังนี้

             1. เนื้อ ซึ่งมีโปรตีนและแร่ธาตุต่างๆ เช่น เนื้อแกะ

             2. ไขมัน ให้ความร้อน และวิตามินเอ

             3. ผัก ข้าว และเมล็ดธัญพืชทุกชนิดทำให้เกิดพลังงานและวิตามินบี วิตามินอี

            4. ผักใบเขียวดิบๆ หรือต้มอ่อนๆ มีเกลือแร่ วิตามินซี และวิตามินอื่นๆ

             5. ไข่ ซึ่งมีไขมัน เหล็ก ฟอสฟอรัส และวิตามินต่างๆ เช่น เอ ดี เป็นต้น เพื่อช่วย การเจริญเติบโตของร่างกายและต้านทานโรค

           6. ตับปลาหรือตับสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่ง นับว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมากทีเดียวเมื่อได้หลักการในเรื่องการให้อาหารสุนัขดังนี้แล้ว การพิจารณาในขั้นต่อไปก็คือ ความจำเป็นถึง การให้อาหารสุนัข ในทางปฏิบัติสุนัขส่วนมากพอใจที่จะได้รับอาหารเพียงวันละ 1-2 เวลาเท่านั้น คือ เช้าและเย็น การให้อาหารในเวลาหนึ่งๆ ไม่ควรให้มันกินมากจนล้นกระเพาะ ทั้งนี้ก็เพราะว่าจะทำให้ระบบการย่อยอาหารของมันต้องทำงานหนักเกินไปและทรุดโทรมเร็วขึ้น ซึ่งเป็นการได้รับอาหารที่ผิดธรรมชาติของมัน ถ้าเป็นอาหารประเภทแป้งหรือน้ำต้มเนื้อรวมกับผัก ควรให้สุนัขกินในมื้อแรก ส่วนอาหารประเภทเนื้อควรให้มื้อหลังจะเป็นการดีอย่างยิ่ง แต่จะอย่างไรก็ตาม อย่าได้ให้ทันทีก่อนหรือหลังการออกกำลังมากๆ ของสุนัข สำหรับการเลี้ยงสุนัขในปัจจุบัน ถ้าผู้เลี้ยงใช้อาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัขที่มีขายอยู่ในขณะนี้เลี้ยงแล้ว ส่วนใหญ่จะได้คุณค่าทางอาหารที่เพียงพอกับความต้องการ แต่ถ้าในท้องถิ่นนั้นหาซื้อได้ยากก็ควรใช้อาหารที่หาได้เท่าที่มี โดยคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารนั้นด้วย

 

 

 

 

© 2019 All Rights Reserved. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

Please publish modules in offcanvas position.