• DSC_0874_resize.JPG
  • DSC_0875_resize.JPG
  • DSC_0882_resize.JPG
  • DSC_0885_resize.JPG
  • DSC_0886_resize.JPG
  • DSC_0895_resize.JPG
  • DSC_0901_resize.JPG
  • DSC_0904_resize.JPG
  • DSC_0905_resize.JPG
  • DSC_0909_resize.JPG
  • DSC_0910_resize.JPG

การฝึกสุนัขบางแก้ว

         

            สำหรับการเลี้ยงสุนัขบางแก้ว การจัดสรรแบ่งเวลาที่ดีถือเป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงควรต้องมีและเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เพราะว่า สุนัขบางแก้วเป็นสุนัขที่มีพลังงานอยู่ในตัวสูง และมีนิสัยซุกซน ถ้าหากไม่ได้รับการดูแลและใส่ใจอย่างใกล้ชิดจากผู้เลี้ยง อาจจะกลายเป็นน้องหมาก้าวร้าว มีนิสัยดุร้าย ไม่สามารถควบคุมได้ ผู้เลี้ยงจึงต้องมีเวลาดูแลสุนัขของท่านอย่างเต็มที่ โดยผู้เลี้ยงควรมีเวลาฝึกทักษะให้กับน้องหมา มีเวลาเพื่อพาน้องหมาไปออกกำลังกาย และมีเวลาดูแลสุขภาพน้องหมา ซึ่งจะช่วยทำให้น้องหมามีสุขภาพจิตใจที่แข็งแรง ร่าเริง

ควรมีเวลาฝึกทักษะให้สุนัขบางแก้ว

            ถึงแม้ว่าสุนัขบางแก้วจะเป็นสุนัขไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุ ซุกซน และชอบกัดแทะทำลายข้าวของ แต่ก็สามารถควบคุมให้เป็นสุนัขที่มีนิสัยดีได้ เพียงแค่ผู้เลี้ยงจะต้องมีเวลาให้กับสุนัขของท่านมากพอที่จะฝึกทักษะต่าง ๆ ให้น้องหมาสงบนิ่ง และมีวินัยที่ดี โดยผู้เลี้ยงควรวางระบบฝึกให้กับสุนัขเด็กตั้งแต่มีอายุ 1-2 เดือนขึ้นไป โดยฝึกให้น้องหมารู้จักคำสั่งพื้นฐานง่าย ๆ อย่างเช่น คำสั่ง “หยุด”  “ไม่”  เมื่อทำในสิ่งที่ผิด จะทำให้สุนัขของท่าน ได้เรียนรู้ว่าสิ่งไหนดีไม่ดี อะไรควรทำไม่ควรทำ

            ข้อดีของการฝึกสุนัขบางแก้วให้รู้จักคำสั่งพื้นฐานคือ จะช่วยให้เริ่มต้นเรียนรู้การใช้ชีวิต มีกฏระเบียบ และเมื่อสามารถทำตามคำสั่งพื้นฐานได้แล้ว การฝึกขั้นต่อ ๆ ไป จึงไม่ใช่เรื่องยาก โดยใช้การฝึกพื้นฐานแบบสุนัขทั่วไป

การเริ่มฝึกสุนัข

             สุนัขในวัยเด็ก ก็เหมือนผ้าสีขาว จะโตขึ้นมามีนิสัยหรือพฤติกรรมอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและสอนให้เขาเรียนรู้สิ่งต่างๆ หากเลี้ยงให้เขาใช้ชีวิตไปตามสัญชาตญาณ กิน นอน เล่น ตามที่เขาอยากจะทำ คงไม่ต้องหวังว่าจะสามารถทำให้เขาทำตามคำสั่ง หรือให้เขาใช้ชีวิตอย่างเป็นระเบียบได้ และยิ่งนานวันเข้า ถ้าหากเจ้าของไม่สามารถควบคุมได้ ปัญหาต่างๆ ก็จะตามมามากมาย และท้ายที่สุดผลเสียก็จะไปตกอยู่กับสุนัข ดังนั้นถ้าไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับสุนัขของท่าน วิธีที่ดีที่สุดก็คือ เราจะต้องฝึกสุนัขตั้งแต่เขายังเด็ก

            ช่วงเวลาที่เหมาะกับการฝึกน้องหมามากที่สุดก็คือ ช่วงอายุตั้งแต่ 1-3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกสุนัขกำลังมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว และกำลังเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว ด้วยเหตุนี้ผู้เลี้ยงจึงควรวางโปรแกรมการฝึกให้น้องหมา อย่างเป็นระบบและถูกวิธี

วิธีการวางโปรแกรมการฝึกสุนัขขั้นพื้นฐานแบบง่ายๆ

               เริ่มต้นจากการกำหนดสิ่งที่เราต้องการจะฝึกสำหรับสุนัขที่อยู่ในช่วงอายุ 1-3 เดือนนั้น มีสิ่งที่จะต้องฝึกน้องหมาตามขั้นตอน ดังนี้

ช่วงแรกเกิด - 8 สัปดาห์

 ช่วงนี้น้องหมายังต้องรับการดูแลจากแม่สุนัข ตาและหูยังปิดอยู่ น้องหมาจะเริ่มหัดเดินเมื่ออายุได้ 16 วัน เปลือกตาจะเริ่มเปิดเมื่ออายุ 2สัปดาห์ และช่องหูจะเริ่มทำงานหลังคลอด 17 วัน

          ในช่วงนี้ลูกสุนัขจะเรียนรู้ได้เพียงเล็กน้อย แต่ผู้เลี้ยงอาจจะเริ่มฝึกทักษะการเข้าสังคมขั้นพื้นฐานให้ โดยวิธีการง่ายๆ อย่างการอุ้มลูกสุนัขอย่างนุ่นนวลบ่อยๆ เพื่อให้เขาคุ้นเคยกับมนุษย์ เรียกชื่อเขาบ่อยๆ เพื่อให้เขาคุ้นเสียงของเรา และจดจำชื่อของตัวเอง ช่วงนี้ยังไม่ควรแยกลูกสุนัขออกจากแม่และพี่น้องตัวอื่น ๆ เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญมากๆ ที่เขาจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากแม่และเรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่กับสุนัขตัวอื่นๆ

ช่วง 8 - 15 สัปดาห์

           เป็นช่วงที่ลูกสุนัขเริ่มหย่านมแม่แล้ว ผู้เลี้ยงสามารถแยกเขาออกจากแม่ และเริ่มที่จะให้น้องหมาเรียนรู้ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของและบุคคลต่างๆ ในครอบครัว ผู้เลี้ยงควรเริ่มจัดลำดับความสำคัญในครอบครัวให้น้องหมาได้เรียนรู้ว่า “คุณ” คือจ่าฝูง ค่อยๆ สอนให้เขาเรียนรู้ที่จะปรับตัวกับการอยู่ในบ้านกับสมาชิกในครอบครัว และรู้จักพื้นที่ของตัวเอง

            การจำกัดขอบเขตให้สุนัขเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้เขามีระเบียบ พื้นที่ของสุนัขที่สำคัญที่เราต้องสอนให้เขารู้จักก็คือ ที่กินอาหาร ที่นอน และที่ขับถ่าย ถ้าหากใครคิดว่าจะให้น้องหมานอนในกรงล่ะก็ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะฝึกให้น้องหมารู้จักการนอนในกรงและอยู่ในกรงเมื่อเวลาจำเป็น เช่น เจ้าของไม่อยู่บ้าน , มีคนแปลกหน้ามาบ้าน ฯ

            นอกจากนี้ ช่วงนี้ผู้เลี้ยงควรจะฝึกให้ลูกสุนัขเริ่มคุ้นกับสายจูงเวลาออกไปเดินเล่น โดยวิธีการฝึกให้คุ้นกับสายจูงก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากการเลือกสายจูงที่เหมาะกับลูกสุนัข สายจูงจะต้องเล็กและมีน้ำหนักเบา ผู้เลี้ยงคล้องสายจูงให้น้องหมาและปล่อยให้เขาเดินเล่นรอบสนาม (โดยที่ผู้เลี้ยงดูอยู่ห่างๆ) แบบไม่ต้องจูง จากนั้นให้ผู้เลี้ยงค่อยๆ หยิบสายจูงขึ้นมาแล้วปล่อยให้น้องหมาเดินเล่นต่อ โดยที่เราไม่ต้องบังคับเขา ปล่อยให้เขาไปในจุดที่เขาอยากไป วิธีนี้จะช่วยให้น้องหมาเด็กคุ้นเคยกับสายจูงได้ง่ายขึ้น

            เรื่องของช่วงวัยมีความสำคัญมากๆ ต่อการปรับพฤติกรรมและนิสัยของสุนัข ดังนั้นการเริ่มฝึกสุนัขตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีพัฒนาการในการการเรียนรู้ที่รวดเร็วนั้น จะช่วยให้การฝึกมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือการปรับพฤติกรรมของลูกสุนัข การแก้ไขนิสัยเสียต่างๆ ของเขานั้น  จะเป็นผลดีในระยะยาวเมื่อสุนัขโตขึ้น

 

 

             การจำกัดขอบเขตให้สุนัขเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะทำให้เขามีระเบียบ พื้นที่ของสุนัขที่สำคัญที่เราต้องสอนให้เขารู้จักก็คือ ที่กินอาหาร ที่นอน และที่ขับถ่าย ถ้าหากใครคิดว่าจะให้น้องหมานอนในกรงล่ะก็ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะฝึกให้น้องหมารู้จักการนอนในกรงและอยู่ในกรงเมื่อเวลาจำเป็น เช่น เจ้าของไม่อยู่บ้าน , มีคนแปลกหน้ามาบ้าน ฯ

 

 

             นอกจากนี้ ช่วงนี้ผู้เลี้ยงควรจะฝึกให้ลูกสุนัขเริ่มคุ้นกับสายจูงเวลาออกไปเดินเล่น โดยวิธีการฝึกให้คุ้นกับสายจูงก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากการเลือกสายจูงที่เหมาะกับลูกสุนัข สายจูงจะต้องเล็กและมีน้ำหนักเบา ผู้เลี้ยงคล้องสายจูงให้น้องหมาและปล่อยให้เขาเดินเล่นรอบสนาม (โดยที่ผู้เลี้ยงดูอยู่ห่างๆ) แบบไม่ต้องจูง จากนั้นให้ผู้เลี้ยงค่อยๆ หยิบสายจูงขึ้นมาแล้วปล่อยให้น้องหมาเดินเล่นต่อ โดยที่เราไม่ต้องบังคับเขา ปล่อยให้เขาไปในจุดที่เขาอยากไป วิธีนี้จะช่วยให้น้องหมาเด็กคุ้นเคยกับสายจูงได้ง่ายขึ้น

              เรื่องของช่วงวัยมีความสำคัญมากๆ ต่อการปรับพฤติกรรมและนิสัยของสุนัข ดังนั้นการเริ่มฝึกสุนัขตั้งแต่ช่วงวัยเด็ก ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีพัฒนาการในการการเรียนรู้ที่รวดเร็วนั้น จะช่วยให้การฝึกมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือการปรับพฤติกรรมของลูกสุนัข การแก้ไขนิสัยเสียต่างๆ ของเขานั้น  จะเป็นผลดีในระยะยาวเมื่อสุนัขโตขึ้น

© 2019 All Rights Reserved. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

Please publish modules in offcanvas position.